ขึ้นราคาสินค้ายังไง ให้ลูกค้ายังอยู่

เมื่อธุรกิจของคุณต้องขึ้นราคาสินค้า สิ่งสำคัญก็คือการต้องวางแผนกลยุทธ์เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ เพราะจากแนวโน้มของสภาพเศรษฐกิจทุกวันนี้ ธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับราคาสินค้าต่างๆ ให้สูงมากขึ้น ดังนั้นร้านค้าจึงควรต้องหันปรับกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อเข้าหาลูกค้ามากขึ้น ดังนั้นหากต้องการปรับราคาตามการตลาด การเปลี่ยนราคาอย่างกะทันหันจะทำให้ลูกค้าตกใจ การใช้โปรโมชั่นมาช่วยเสริมก็จะทำให้ธุรกิจของคุณปรับเปลี่ยนราคาได้อย่างนุ่มนวลขึ้น เช่น การนำเพิ่มโปรโมชั่นสะสมแต้มเข้ามา เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจมากขึ้น

อัตราเงินเฟ้อเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจต่างๆ ต้องขึ้นราคามากขึ้น โดยเมื่อปี 2566 ประเทศไทยมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ระหว่าง 1.0–1.7% ค่ากลาง 1.35% และนอกจากค่าใช้จ่าย ค่าวัตถุดิบที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ธุรกิจต่างๆ ก็ยังต้องเผชิญกับต้นทุนต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค หรือค่าแรง

การรับมือกับภาวะเงินเฟ้อไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ SME ความท้าทายคือการหาจุดกึ่งกลางระหว่างการขึ้นราคาให้ครอบคลุมต้นทุน กับไม่ขึ้นราคาจนทำให้ลูกค้าไม่พอใจจนหันไปหาคู่แข่ง

ที่การเพิ่มราคาเพียงพอที่จะครอบคลุมต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ทำให้ข้อเสนอไม่สามารถแข่งขันได้ อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือลูกค้าจะรับรู้ถึงการเพิ่มขึ้นของราคาเหล่านี้อย่างไร การเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันหรือไม่ยุติธรรมอาจนำไปสู่ความไม่พอใจของลูกค้าหรือเปลี่ยนไปสู่คู่แข่งได้ นอกเหนือจากความมุ่งมั่นที่จะควบคุมต้นทุนการค้าปลีกแล้ว ธุรกิจต่างๆ สามารถรองรับปี 2024 ได้ด้วย เพื่อที่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นกับธุรกิจของคุณ นี่คือ 4 วิธีที่จะช่วยพาธุรกิจของคุณให้พร้อมเผชิญกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้

จุดสำคัญคือการสื่อสาร

การพูดคุยอย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมาคือพื้นฐานของสื่อสารกับลูกค้า ธุรกิจต่างๆ ควรอธิบายเหตุผลและเบื้องหลังของการขึ้นราคาอย่างเปิดเผย การสื่อสารเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจว่าการขึ้นราคาเกิดขึ้นเพราะอะไร เมื่อธุรกิจของคุณชี้แจงอย่างโปร่งใสแล้วก็จะช่วยลดความไม่พอใจและความรู้สึกต่อต้านลงไปได้

ในขั้นตอนนี้การมีส่วนร่วมกับลูกค้าเชิงรุกก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ธุรกิจของคุณควรใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย เช่น โซเชียลมีเดีย อีเมล และหน้าร้านเพื่อเข้าถึงก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคา วิธีการสื่อสารเชิงรุกก่อนจะปรับราคาจะช่วยให้ลูกค้าได้เตรียมตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง ด้วยการเข้าหาลูกค้าตั้งแต่เนิ่นๆ และสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร้านค้าสามารถปรับราคาใหม่ได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

นำกลยุทธ์การตั้งราคาตามคุณค่ามาใช้

การตั้งราคาสินค้าตามคุณค่า (Value-driven pricing) คือกลยุทธ์การตั้งราคาสินค้าและบริการโดยกำหนดจากคุณค่าที่ลูกค้ารู้สึก มากกว่าคิดจากต้นทุนการผลิตหรือราคาตลาด ธุรกิจของคุณสามารถนำกลยุทธ์นี้มาใช้ควบคู่ไปด้วยกันได้ โดยเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพิ่มส่วนเสริมต่างๆ ให้บริการที่เหนือกว่า หรือเพิ่มสิทธิประโยชน์พิเศษ เพื่อเพิ่มความชอบธรรมให้กับการปรับราคา วิธีนี้การนี้จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของลูกค้าจากราคาสินค้าไปที่ประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ ดังนั้นหากคุณปรับเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะขึ้นราคาก็จะสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าของคุณได้ เพราะพวกเขาจะรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

ยกตัวอย่างเช่น AirAsia ของมาเลเซียที่ประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์การตั้งราคาตามคุณค่า ด้วยการนำเสนอการเดินทางทางอากาศในราคาที่จับต้องได้ พร้อมด้วยบริการเสริมต่างๆ เช่น การจองออนไลน์ที่สะดวกสบาย ตัวเลือกการเดินทางที่ปรับแต่งได้ และส่วนเสริมแบบพรีเมียม ทำให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งประสบการณ์การเดินทางของตัวเองได้ หรือจะดูอีกตัวอย่างอย่างโปรแกรมสะสมไมล์ KrisFlyer ของ Singapore Airlines ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าได้ประโยชน์จากการสะสมไมล์จากค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์

ใช้ประโยชน์จากโปรแกรมสะสมแต้มลูกค้า (Loyalty Program) ของ Qashier

ให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รางวัลตลอดเวลา เพิ่มประสบการณ์เชิงบวกให้กับลูกค้า เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขึ้นราคา และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่ามากขึ้นเมื่อซื้อสินค้าและบริการจากธุรกิจของคุณด้วยโปรแกรมสะสมแต้มลูกค้าจาก Qashier ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจแบบไหนก็สามารถมีโปรแกรมสะสมแต้มลูกค้าได้เมื่อใช้ระบบ POS ของ Qashier และไม่จำเป็นต้องมีบัตรสะสมแต้ม ลูกค้าสามารถสะสมแต้มจากเครื่อง Qashier ได้เลย

นอกจากนี้ คุณยังสามารถกำหนดรางวัลที่ลูกค้าจะได้รับได้ สามารถปรับแต่งระบบได้ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าโดยมีตัวเลือกหลากหลาย เช่น เครดิตหรือคะแนน ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับธุรกิจและความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน

ที่สำคัญคือสามารถใช้งานง่าย ลูกค้าลงทะเบียนได้ที่เคาน์เตอร์ได้เลยโดยใช้แค่หมายเลขโทรศัพท์ สะดวกสบายและรวดเร็ว ยกระดับการให้บริการของลูกค้าของธุรกิจคุณ ทำให้ Qashier เป็น POS ที่เหมาะสำหรับทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น POS ร้านค้า ร้านอาหาร หรือ POS ร้านเสริมสวย

สำรวจความคิดเห็นของลูกค้าผ่าน QashierHQ

หลังจากได้ปรับราคาขึ้นและเริ่มใช้งานโปรแกรมสะสมแต้มลูกค้าแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคืออะไร? การตามติดและวิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าคุณจะต้องปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณเมื่อไหร่ ซึ่ง Qashier จะช่วยธุรกิจของคุณรวบรวมข้อมูลนี้ได้อย่างง่ายได้ เมื่อคุณใช้เครื่อง smart POS Qashier หลังจากการซื้อขายในแต่ละครั้ง ลูกค้าสามารถให้คะแนนความพึงพอใจต่อร้านค้าบนเครื่อง POS ได้เลย จากนั้นคุณสามารถเข้าไปที่ระบบหลังบ้านออนไลน์อย่าง QashierHQ เพื่อดูภาพรวมว่าลูกค้าพึงพอใจหรือไม่ และนำไปวิเคราะห์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้

ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับทุกธุรกิจในการแก้ไขปัญหา คุณสามารถสังเกตและรับรู้ฟี้ดแบคที่เกิดขึ้นเพื่อเข้าไปสอบถามและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที และปรับปรุงคุณภาพการบริการให้ดียิ่งขึ้น กลไกการให้ความคิดเห็นนี้เป็นส่วนสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์การรักษาลูกค้าและการปรับแต่งการตั้งราคาตามคุณค่า ซึ่งช่วยให้ธุรกิจปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

สรุป

การปรับราคาให้มีประสิทธิภาพดังที่เห็นในยุคหลังภาษีสินค้าและบริการ (VAT) เพิ่มขึ้นในสิงคโปร์จำเป็นต้องใช้แนวทางที่หลากหลาย แม้ว่าการหาจุดกึ่งกลางอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ Qashier ช่วยให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด นั่นคือการให้บริการที่ยอดเยี่ยมและคุณค่าแก่ลูกค้าโดยไม่ลดทอนอัตรากำไร

เริ่มต้นยกระดับการจัดการร้านด้วย Qashier วันนี้

หากคุณสนใจให้ Qashier เป็นผู้ช่วยธุรกิจร้านอาหารของคุณ สามารถติดต่อเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และพวกเรา Qashier ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นทั้งเครื่อง POS สำหรับร้านอาหาร รวมถึงร้านค้า และระบบ POS ที่มีประสิทธิภาพ และบริการซัพพอร์ทจากทีมงานของเราตลอด 7 วัน/สัปดาห์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official: @qashier.th หรือโทร 02 544 0267