Customer Experience สำหรับธุรกิจค้าปลีกคืออะไร?

สำหรับใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจร้านค้าปลีก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายอาหารสัตว์ ฯลฯ คุณอาจจะเคยมีประสบการณ์หรือเห็นได้ชัดว่า มีลูกค้าจำนวนมากที่ไม่ได้เข้ามาเพื่อเลือกซื้อสินค้าที่ตนเองสนใจเพียงอย่างเดียว แต่หลายคนมาพร้อมกับความคาดหวังที่พวกเขาจะได้รับความพึงพอใจหรือประสบการณ์ดี ๆ จากการเข้ามาซื้อสินค้า หรือที่รู้จักกันอย่าง “Customer Experience” ควบคู่ไปกับการใช้โปรแกรม POS จัดการร้านค้าปลีกนั่นเอง เรามาดูกันว่ากลยุทธ์ Customer Experience นี้คืออะไร และช่วยให้การจัดร้านค้าปลีกมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน รวมถึงจะสามารถช่วยดึงดูดลูกค้าได้อย่างไรบ้าง? เพื่อให้พวกเขาเกิดความประทับใจและกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง 

ทำความรู้จัก Customer Experience กันให้มากขึ้นอีกสักนิด

Customer Experience (CX) คือ การนำข้อมูลของผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมาย ที่เกี่ยวกับพฤติกรรมในการซื้อสินค้า ไลฟ์สไตล์ ความชอบ รวมไปถึงช่องทางต่าง ๆ ที่พวกเขาเข้าถึงแบรนด์ เพื่อการวิเคราะห์แบบเฉพาะบุคคล เนื่องจากผู้บริโภคแต่ละคนมีความสนใจและลักษณะการซื้อสินค้าและบริการที่แตกต่างกัน ซึ่งเมื่อเรานำข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์ได้แล้ว ก็จะสามารถนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น แถมยังช่วยในเรื่องการจัดร้านค้าปลีก ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกดี ประทับใจ และได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ต่อแบรนด์ของคุณมากขึ้นด้วย

Customer Experience ช่วยเรื่องการจัดการร้านค้าปลีกอย่างไร?

แน่นอนว่าในการทำธุรกิจนั้น “ลูกค้า” คือตัวแปรที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จและเติบโตมากขึ้น เรามาดูกันว่าการทำ Customer Experience จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในด้านไหนได้บ้าง

• ช่วยให้ผู้บริโภครับรู้เกี่ยวกับตัวแบรนด์ในทิศทางที่ดีขึ้น และยังทำให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคได้ดีมากยิ่งขึ้น
• ธุรกิจค้าปลีกสามารถเลือกเก็บข้อมูลได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้ช่องทางอื่น ๆ ในการเสียเงินค่าโปรโมต
• สามารสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดีมากยิ่งขึ้น
• มีความเสมอต้นเสมอปลายในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าทุกช่องทาง
• สามารถใช้แพลตฟอร์มของตัวเองในการสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง

เปิด 6 กลยุทธ์สร้าง Customer Experience เพิ่มความประทับใจให้ลูกค้า

1. ใสใจกับการสร้างสรรค์สินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย

เพราะหัวใจหลักของการทำธุรกิจค้าปลีก ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องคุณภาพของสินค้าและการบริการที่ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ ดังนั้นแล้ว กฎสำคัญข้อแรกในการพิชิตใจลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำได้นั้น คือการรักษาคุณภาพของสินค้าและบริการให้ดีอยู่เสมอ และพยายามนำข้อมูลที่ได้จากลูกค้ามาวิเคราะห์และต่อยอด เพื่อผลิตสินค้าใหม่ ๆ ที่มีความหลากหลาย ให้ตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น

2. นำเสนอสินค้าคุณภาพดี พร้อมโปรโมชันที่น่าสนใจ

การทำโปรโมชันควบคู่ไปกับสินค้าคุณภาพดีนั้น นอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขายในระยะสั้นแล้ว ยังจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น รวมถึงยังจะผลดีในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างฐานลูกค้าจากการเรียกลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ให้มาทดลองใช้สินค้า การสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ การเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนทำให้เกิดความประทับใจในกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย 

3. มอบความพิเศษให้กับลูกค้า ด้วย Personalized Marketing

ใคร ๆ ก็อยากเป็นลูกค้าคนสำคัญกันทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าการทำ Personalized Marketing กับ สินค้าหรือบริการของแบรนด์คุณ จะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างที่ต้องการ ที่สำคัญยังจะช่วยลดโอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจไปใช้สินค้าหรือบริการจากคู่แข่ง นอกจากนี้ ยังจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน และสามารถต่อยอดจนกลายเป็นลูกค้าที่มีความภักดี (Loyal Customer) ต่อแบรนด์ของคุณในระยะยาว 

อีกทั้งกลยุทธ์นี้ ยังจะช่วยเพิ่มยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น เพราะลูกค้าหลายคนมักจะมองว่า ยิ่งพวกเขาค้นพบสินค้าที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์มากเท่าไร ความต้องการที่จะซื้อก็มีมากขึ้น ซื้อเร็วขึ้น และซื้อแพงขึ้นได้อีกด้วย

4. จับคู่สินค้ากับบริการ ด้วยกลยุทธ์ Product and Service Bundling

สำหรับธุรกิจไหนที่ขายสินค้าอย่างเดียว แต่อยากสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากขึ้น ให้คุณลองเพิ่มบริการพิเศษเข้าไปด้วย เช่น หากคุณขายเครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถนำเสนอบริการพิเศษอย่าง บริการติดตั้งให้ฟรีถึงบ้าน เพื่อเพิ่มความประทับใจและทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับประสบการณ์ที่ดีจากทางแบรนด์ได้มากกว่าเดิม

5.ดึงดูดลูกค้าด้วยกลยุทธ์ Social Media ที่แข็งแกร่ง

เชื่อว่าทุกธุรกิจย่อมรู้ดีว่า การวางกลยุทธ์ทางการตลาดบนโลกโซเชียลมีเดีย จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงยังสามารถสร้างการรับรู้และยอดขายให้มากขึ้น แต่สิ่งที่มากไปกว่าการนำเสนอสินค้าหรือบริการ คือการถ่ายทอดความเป็นแบรนด์และเข้าถึงตัวตนของลูกค้าได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับความชอบ ความสนใจ หรือกิจวัตรประจำวันของลูกค้า ที่จะช่วยสื่อสารออกไปได้อย่างตรงจุด ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกผูกพันและจงรักภักดีต่อสินค้าแบรนด์นั้น ๆ  

6. เพิ่มยอดขาย เพิ่มความประทับใจให้กับลูกค้า ด้วยกลยุทธ์ Retailtainment

หลายคนอาจจะมองว่า Retailtainment Strategy เป็นกลยุทธ์ใหม่ แต่ที่จริงแล้ว กลยุทธ์นี้เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรามานาน ที่ธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจค้าปลีก สามารถนำมาปรับใช้ได้มากขึ้น โดยคำว่า Retailtainment มาจากคำว่า ‘Retail + Entertainment’ ที่เป็นการผสานกลยุทธ์ทางการตลาด ควบคู่กับความบันเทิง จึงช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับผู้ซื้อได้มากขึ้น เช่น การให้ลูกค้าทายกลิ่นของน้ำหอมตัวใหม่ที่ทางแบรนด์ยังไม่ได้วางขาย แต่นำมาให้ทดลองดมกลิ่นกันก่อน ทำให้พวกเขารู้สึกพิเศษ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการได้ทดลองสินค้าเป็นกลุ่มแรก

มอบประสบการณ์ ในเรื่องของงานบริการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยโปรแกรม POS ร้านค้าปลีกจาก Qashier

เมื่อได้เรียนรู้ถึงเทคนิค Customer Experience เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากขึ้นแล้ว อย่าลืมเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการขายด้วยเครื่องมือสำคัญอย่าง โปรแกรม POS สำหรับร้านค้าปลีก จาก Qashier เพราะโปรแกรม POS ร้านค้าปลีกสามารถช่วยจัดการร้านค้าของคุณได้อย่างครอบคลุม พร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน ทั้งระบบสต็อกสินค้า ระบบออร์เดอร์ ระบบวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ระบบชำระเงิน ระบบบัญชี ระบบโปรโมชัน ฯลฯ ที่ตอบโจทย์การทำงานได้มากกว่าเดิม รับรองว่าธุรกิจไหนก็ใช้งานง่าย  คุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างแน่นอน สั่งซื้อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @qashier.th หรือโทร 02-544-0267