หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกก็เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งต่อการใช้ชีวิตและการค้าขาย จนมาถึงปัจจุบันที่สถานการณ์คลี่คลายลง การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างก็หายไป เช่น การเว้นระยะห่าง แต่บางอย่างก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีงามจนลูกค้าชื่นชอบ นั่นก็คือ “การชำระเงินแบบไร้สัมผัส” ที่ยังคงได้รับความนิยมมากขึ้นและยิ่งเฟื่องฟูขึ้นทุกวัน ดังสถิติตามรูปข้างล่างนี้
จำนวนธุรกรรมไร้สัมผัสทั่วโลกตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2564 โดยมีการคาดการณ์ระหว่างปี 2565 ถึง 2569 แยกตามภูมิภาค (หลักพันล้าน): ที่มา
จากสถิติทำให้เราเห็นได้ว่าการชำระเงินแบบไร้สัมผัสกำลังเป็นที่นิยมถึงขีดสุด และจะเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมหลังจากนี้ต่อไปอีก แล้วธุรกิจของคุณพร้อมที่จะรับการชำระแบบนี้แล้วหรือยัง
อะไรที่ทำให้การชำระเงินแบบไร้สัมผัสเป็นที่นิยม
การชำระเงินแบบไร้สัมผัสไม่ได้เป็นแค่กระแสที่มาครั้งคราว เพราะในตอนนี้ลูกค้าทั่วโลกยอมรับมากขึ้น ในปี 2565 จำนวนผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิน 140 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 137 ล้านคนในปี 2564 และจากสถิติเปิดเผยว่าประเทศไทยมีอัตรารับการชำระเงินไร้สัมผัสสูงสุดที่ 94%
ถ้าถามเหตุผลว่าทำไม นอกจากความเคยชินกับความสะดวกสบายแล้วยังมีอีก 3 เหตุผลที่คุณต้องศึกษาเอาไว้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการบริหารธุรกิจของคุณให้ทันยุคสมัยมากขึ้น
1. ความเร็ว (ใช้เวลาน้อยและลดระยะเวลาสัมผัส)
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าชอบการชำระเงินแบบไร้สัมผัสก็คือความง่ายและความรวดเร็ว แค่ยกมือถือมาสแกน หรือแตะบัตรก็ชำระเงินได้อย่างง่ายดายใน 1-2 วินาที
ความเร็วและความง่ายนี้ทำให้ลูกค้าเริ่มนิยมไม่พกเงินสดกันมากขึ้นด้วยเช่นกัน มีรายงานจากทาง Visa Consumer Payments ว่าในปี 2022 ผู้บริโภคชาวมาเลเซียกว่า 55% ไม่พกเงินสดในการใช้ชีวิตเลย ซึ่งสถิตินี้เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนหน้า
แค่พกพาเพียงบัตรธนาคารหรือโทรศัพท์ก็ใช้ชีวิตได้ ไม่จำเป็นต้องใช้กระเป๋าสตางค์ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องแบงค์ใหญ่แบงค์ย่อย หรือพกเหรียญ ทำให้หลายคนติดใจกับความึคล่องตัวและไม่ยุ่งยากนี้เอง
2. ความปลอดภัย (ป้องกันมิจฉาชีพและการถูกขโมย)
เชื่อหรือไม่? ว่าการชำระเงินแบบไร้สัมผัสนั้นโดดเด่นในเรื่องคุณสมบัติของความปลอดภัยในการชำระเงิน ด้วยการเข้ารหัสข้อมูลแบบต่างๆ (Encyption) และการใช้ Token ช่วยปกป้องข้อมูลเงินจากการถูกขโมยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น บัตรเครดิตแบบไร้สัมผัสนั้นจะสร้างรหัสที่ไม่ซ้ำกันสำหรับในการทำแต่ละธุรกิจ
และที่สำคัญที่สุด คุณไม่จำเป็นต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีโอกาสที่จะถูกขโมยหรือสูญหาย เงินที่คุณจำเป็นต้องใช้จะอยู่ในบัตรหรืออุปกรณ์ของคุณ
แม้ว่าอุปกรณ์ของคุณจะสูญหาย เงินก็ยังปลอดภัยเพราะมีการรักษาความปลอดภัยด้วยรหัส PIN หรือการระบบนิรภัยแบบต่างๆ เช่น Touch ID หรือ Face ID เพื่อใช้งานระบบได้ อีกทั้งคุณยังสามารถติดต่อกับธนาคารหรือผู้ให้บริการเพื่อทำการระงับการใช้งานได้อีกด้วย
3. ความประหยัด (ด้วยโปรโมชั่นต่างๆ มากมาย!)
อีกเหตุผลที่ลูกค้าหันมาใช้การจ่ายเงินแบบไร้สัมผัสมากขึ้นก็เพราะว่าลูกค้าสามารถได้รับส่วนลดหรือรางวัลต่างๆ มากมายจากการจ่ายเงินแบบนั้นนั่นเอง!
ธนาคารและผู้ให้บริการของบัตรเครดิตและอีวอลเล็ตมักจะมีข้อเสนอหรือโปรโมชั่นจูงใจเพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้บัตรหรือแอปของพวกเขา เช่น โปรโมชั่นรับเงินคืน 5% รวมถึงไปถึงการสะสมแต้มเพื่อแลกรางวัล รวมถึงส่วนลดโปรโมชั่นแบบต่างๆ ซึ่งสิทธิประโยชน์เหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าคนประหยัดเงินได้มากขึ้น
ตอนนี้คุณคงเข้าใจมากขึ้นแล้วว่าทำไมการชำระเงินแบบไร้สัมผัสถึงเป็นที่นิยมและมีผู้ใช้งานเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ และในฐานะผู้ประกอบการย่อมเป็นการดีกว่าถ้าคุณเตรียมวิธีการชำระเงินที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและทำให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น
แม้ว่าการ “ชำระเงินแบบไร้สัมผัส” จะฟังดูเป็นเรื่องที่เข้าใจยากและเกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่มันก็ง่ายกว่าที่คุณคิดด้วยโซลูชั่น POS ของ Qashier ที่จะช่วยให้คุณจัดการเรื่องเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
ในบทความต่อไป เรามาดูกันว่าเพราะอะไรร้านค้าควรหันมาเริ่มใช้การชำระเงินแบบไร้สัมผัสแบบจริงจัง และ Qashier จะช่วยสนับสนุนคุณได้อย่างไรบ้าง
เริ่มต้นยกระดับการจัดการร้านด้วย Qashier วันนี้
หากคุณสนใจให้ Qashier เป็นผู้ช่วยธุรกิจร้านอาหารของคุณ สามารถติดต่อเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และพวกเรา Qashier ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นทั้งเครื่อง POS สำหรับร้านอาหาร รวมถึงร้านค้า และระบบ POS ที่มีประสิทธิภาพ และบริการซัพพอร์ทจากทีมงานของเราตลอด 7 วันทำการ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official: @qashier.th หรือโทร 02 544 0267